แพทย์แผนจีนกับสาวเจ้าปัญหา (สุขภาพ)
การใช้ชีวิตของคนเรานั้นมีความแตกต่างกัน ตามลักษณะของอาชีพและกิจวัตรส่วนตัว ดังเช่นประชาสัมพันธ์สาวมากความสามารถแห่งค่ายภาพยนตร์ “คุณน้อง-เสาวนีย์ โพธิ์อยู่” ที่มีลักษณะการใช้ชีวิตการทำงานที่หลากหลาย อยู่ห้องแอร์นาน ๆ หรือออกกองเจอทั้งแดดและลม เหล่านี้ได้สร้างปัญหาทางสุขภาพมากมายให้เธอ จนบางครั้งร่างกายก็รับไม่ไหวเลยทีเดียว
คุณน้องเป็นหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่ไว้วางใจการรักษาสุขภาพด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน และได้เข้าใจถึงความมหัศจรรย์ของศาสตร์นี้จนต้องเปลี่ยนความคิด!!!
“ต้องบอกก่อนนะคะว่า อาชีพของเรานั้นมันมีไลฟ์ไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย การเป็นพีอาร์ภาพยนตร์ต้องพบเจอผู้คนมากมาย ทั้งผู้บริหาร นักข่าว นักแสดง ยันช่างไฟ ตากล้อง แน่นอนว่ามันหมายถึงการทำงานการใช้ชีวิต อิริยาบถของเราในแต่ละวันก็แตกต่างกันไป ปรับตัวกันชั่วโมงต่อชั่วโมง ถามว่าเป็นอย่างไร อาทิ วันนี้ต้องออกกองถ่ายภาพยนตร์ แน่นอนว่าผิวเราร่างกายเราต้องเจอแดดลม พรุ่งนี้พบนักข่าว เดินทาง นั่งในรถนาน ๆ ขับรถนาน ๆ หรือบางครั้ง คิดแผนงานประชาสัมพันธ์ ต้องนั่งในออฟฟิศทั้งวัน บางครั้งเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ครั้งหนึ่งก็ผ่านไปไม่รู้กี่ชั่วโมง ขนาดนี้คงไม่ต้องอธิบายค่ะว่า ก่อปัญหาอะไรบ้าง”
ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น
“เมื่อยตัวมาก ขัดตามตัว เส้นยึด ไม่สบายตัวเลย เราอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ เพลินจนนั่งผิดท่าบ้าง แล้วการอยู่ในห้องแอร์นาน อากาศปิด ย่อมไม่เป็นผลดีต่อระบบหายใจ แถมยังเป็นคนประเภท ทานแล้วนั่ง หิวก็ลุกขึ้นมาทาน ดิฉันเป็นคนทำงานเพลิน นึกขึ้นได้ก็หิวมีเท่านั้น หิวก็ทานแล้วไปทำงานต่อ อีกอย่างที่เจอคือ เวลาที่ออกกองถ่าย จะเจอฝุ่น ละออง แดด สิ่งเหล่านี้ต้องบอกว่าเมืองไทยเราอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งหมดนี้สร้างปัญหาให้กับเราหลายอย่าง ทั้งปวดหัวบ่อย ไมเกรน ส่วนร่างกายปวดตามข้อ ปวดทั่วร่างกาย น้ำหนักขึ้น จากการนั่งนาน ๆ ทั้งในรถ และในออฟฟิศ”
รู้จักแพทย์แผนจีนหรือไม่
“คงเหมือนคนอื่น ๆ หลายคนเลยค่ะ มองว่าคงเป็นเรื่องของคนที่สูงอายุ แต่โดยส่วนตัวอยากลองทำความรู้จัก เช่น การฝังเข็ม การครอบแก้วอะไรประมาณนี้ เพราะมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า เป็นการใช้ธรรมชาติของร่างกายเรานี่แหละ เข้าไปรักษาอาการ และรักษาโรคภัยแบบองค์รวม แนวทางแพทย์แผนจีนนั้นถือว่าน่าสนใจ แต่ก่อนนี้ยังไม่เข้าใจอะไรมาก รู้จากการกูเกิ้ล จากโซเซียล ยังมีความรู้สึกว่าห่างไกลกับคนวัยเรา”
ทำอะไรบ้างกับศาสตร์แพทย์แผนจีน
“มาคุยกับแพทย์จีนค่ะ สิ่งแรกเลยที่รู้สึกอัศจรรย์เช่นกันคือ เปลี่ยนความคิดเราได้แบบสิ้นเชิง ทันสมัยมากค่ะ เหมือนแพทย์ปัจจุบัน ตรวจวิเคราะห์ให้คำปรึกษาได้ทุกอย่าง มีการจับชีพจรและรู้ปัญหาของเรา ร่างกายเราแบ่งเป็น 3 ส่วน ซึ่งเป็นวิชาการที่เราเข้าใจง่ายด้วย สุดท้ายเขารู้ว่าเราเป็นอะไร ต้องแก้ไขตรงไหน อันนี้คือดิฉันตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ ภาพที่เราคิดไว้เปลี่ยนไปเลย คุณหมอแพทย์จีนก็ดูทันสมัย”
“สิ่งที่ทำคือ แก้ไขอาการอย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ ออฟฟิศซินโดรมเลยค่ะ แพทย์จีนจะฝังเข็มให้ที่ด้านหลัง ศีรษะจรดปลายเท้า ตรงไหนที่เราปวดมาก ๆ เรามีอาการ เช่น หลัง บ่าไหล่ หัวเข่า ตรงนี้เวลาที่ฝังเข็มจะตึงหรือตื้อหน่อยแต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้ แต่ที่ดีที่สุดอยู่ตรงนี้ค่ะ เวลาที่เอาเข็มออกนี่แหละ มันเบาไปทั้งตัว ต้องใช้คำว่าเบามาก ๆ ใครที่คิดว่ามาฝังเข็มแล้วจะเจ็บนั่นนี่ เปลี่ยนความคิดค่ะ สบายตัวขึ้น เหมือนการได้ปลดล๊อคร่างกายที่เรายึดดึงไว้ จะประมาณนั้นค่ะ”
ติดใจการครอบแก้ว
“โอ๊ย อันนี้ต้องบอกว่าสุดยอดค่ะ การครอบแก้วเพื่อดูดพิษจากร่างกายนี่ เหมือนถูกหยิกเจ็บนิด ๆ เชื่อเลยว่าเป็นการดูดพิษจริง ๆ พอเสร็จแล้วเท่านั้นแหละค่ะ ตัวเบาและโล่งมาก ๆ โล่งถึงโล่งที่สุด อาการเจ็บปวดนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเหมือนเป็นการร่วมด้วยช่วยกันระหว่างการฝังเข็มและการครอบแก้ว อีกอันไปกระตุ้นให้ร่างกายเราทำงาน อีกอันก็ช่วยดูดเอาพิษต่าง ๆ ออกมาทางผิวหนัง อันนี้เป็นความรู้สึกนะคะ ทางหลักการทางการแพทย์จีนเขาคงอธิบายยาว แต่ในฐานะผู้ป่วยที่มาใช้การรักษาคือ สบายตัวมาก ๆ หลังใช้”
ให้นิยามของศาสตร์การรักษาแบบแพทย์แผนจีน
“ตอนนี้มองว่าไม่ใช่เรื่องของคนสูงวัยแล้วค่ะ มองว่าศาสตร์นี้คือเรื่องของคนทำงาน คนรุ่นใหม่อย่างเรานี่แหละค่ะ เพราะมันตอบโจทย์มากค่ะ แก้ไขปัญหาสุขภาพได้ดีมาก ๆ ค่ะ นิยามหรอค่ะ “คิดว่าศาสตร์นี้เขาเป็นสาวขึ้น”
.............................................................................................................................................
มีปัญหาออฟฟิศซินโดรมปรึกษา “เล่อคังคลินิก” 081-355-8736